ขนมหม้อแกง เป็นขนมไทยโบราณ มันคล้ายกับคัสตาร์ดไข่ชนิดหนึ่ง ขนมหม้อแกงทำด้วยกะทิไข่ (ไข่ไก่หรือไข่เป็ดก็ได้) น้ำตาลปี๊บน้ำตาลทรายขาวเกลือหอมแดงและน้ำมันเล็กน้อย ขนมหม้อแกงมีหลากหลายรูปแบบ แป้งชนิดที่ใช้มักจะเป็นทาโร่ แต่บางครั้งก็ใช้ถั่วเขียวเปลือกเมล็ดบัวมันเทศหรือแป้งอื่น ๆ
ท้าวทองกีบม้าเป็นราชินีของไทยและยังเป็นผู้ที่คิดค้นขนมในช่วงสมัยอยุธยา เธอสร้างขนมจำนวนมากบางแห่งที่ได้รับอิทธิพลจากอาหารโปรตุเกสเช่นกะหรี่ปั๊บ , ขนมโมแก่ง , ทองม้วน , ทองหยอด , ทองหยิบ , ฝอยทองและขนอมพิงค์ ขนมเหล่านี้ถวายแด่สมเด็จพระนารายณ์และเจ้าหญิงสุดาวดีซึ่งเป็นพระราชธิดาของสมเด็จพระนารายณ์ ขนมหม้อแกงถวายสมเด็จพระนารายณ์ในหม้อที่ทำจากทองเหลืองและจากนั้นมาก็เป็นขนมที่สืบทอดกันมาอย่างช้านาน
ส่วนผสม ขนมหม้อแกง

ถั่วเขียว 1½ ถ้วย (300 กรัม)
น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วย (236 กรัม)
มะพร้าว 1 ถ้วย (236 กรัม)
ไข่ใหญ่ 4 ฟอง (ทั้งหมด) บวกไข่แดง 3 ฟอง (หรือไข่เป็ด 5 ฟอง)
น้ำตาลทราย ⅔ ถ้วย (144 กรัม)
หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
เกลือ ½ ช้อนชา
หอมแดงขนาดใหญ่ 1 ชิ้นปอกเปลือกและหั่นบาง ๆ
น้ำมันพืช ⅓ ถ้วย
ขั้นตอนและวิธีทำขนมหม้อแกง
ขั้นตอนที่ 1 ใส่หอมแดงฝานเป็นชิ้นและใส่น้ำมันลงในกระทะขนาดเล็กและตั้งไฟให้ร้อนปานกลาง ผัดหอมแดงฝานให้ทั่วจนเป็นสีน้ำตาลทองและกรอบ (อย่าเร่งความร้อนเพื่อเร่งกระบวนการให้เร็วขึ้นคุณจะต้องผัดชิ้นหอมแดงก่ให้มันจะกรอบเพื่อความอร่อยแต่ถ้านานจนเกินไปอาจจไหม้ได้ ) จากนั้นย้ายไปที่จานกระดาษที่มีกระดาษซับมันกันไว้ จากนั้นเก็บน้ำมันที่เหลือ
ขั้นตอนที่ 2 ใช้น้ำมันทาที่ก้นและด้านข้างของจานอบขนาด 9 × 13 นิ้ว หรือใช้น้ำมันที่เหลือไว้จากขั้นตอนที่ 1 และหากยังมีน้ำมันเหลืออยู่ให้สำรองไว้เหมือนเดิม

ขั้นตอนที่ 3 เปิดเตาอบที่ 375 ° F
ขั้นตอนที่ 4 ละลายน้ำตาลปี๊บหรือมะพร้าวอ่อน
ขั้นตอนที่ 5 ในเครื่องปั่นหรือเครื่องเตรียมอาหารผสมถั่วเขียวที่ปรุงสุกแล้วใส่ไข่น้ำตาลเกลือและน้ำมันหอมแดงที่เหลือจากการฝานจนทั้งหมดเนียนเข้าด้วยกัน
ขั้นตอนที่ 6 พักส่วนผสมของที่นำไปอบไว้ประมาณ 5 นาทีจนเป็นฟองน้อยลง
ขั้นตอนที่ 7 เทส่วนผสมลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้ วางในเตาอบ นำเข้าอบประมาณ 35-45 นาทีหรือจนตรงกลางแข็งเล็กน้อยและด้านบนเป็นสีน้ำตาลทองให้สังเกตุขั้นตอนนี้ให้ดีเพราะเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดเพราะอาจจะไม่สุกหรือขนทอาจจะไหม้ไปเลยก็ได้
ขั้นตอนที่ 8 โรยหอมแดงทอดให้ทั่วด้านบนของขนมหม้อแกง
จากนั้นนำขนมไปตัดและเรียงใส่จานให้สวยงามตามความชอบ หากท่านใดที่ไม่ชอบความหวานสามารถคิดสูตรที่น้ำตาลน้อยได้แต่ถ้าอยากได้ขนมแสนอร่อยที่เอาไว้ทานเล่นแนะนำทำตามสูตรนี้เลยคุณจะได้ขนมที่อร่อยแน่นอน
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
สนใจวิธีทำข้าวเหนียวมะม่วงคลิก ข้าวเหนียวมะม่วง
Credit http://tarajantzenblog.com/
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =